วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554


เอกสารที่ใช้ประกอบทางการค้าระหว่างประเทศ (Commercial Documents) ที่ผู้ซื้อ (Importer) และผู้ขาย (Exporter) ระบุไว้ในสัญญาการสั่งซื้อสินค้าเข้าหรือการส่งสินค้าออก ที่พบเห็นทั่วไป มีดังนี้
1. Draft / Bill of Exchange : ดร๊าฟ หรือตั๋วแลกเงิน
2. Invoice : บัญชีราคาสินค้า หรือใบกำกับราคาสินค้า
3. Bill of Lading : ใบตราส่งสินค้า
4. Air Waybill : ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ
5. Parcel Post Receipt : ใบพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์
6. Rail Way Bill : ใบตราส่งทางรถไฟ
7. Insurance Policy : กรมธรรม์ประกันภัย
8. Insurance Certificate : ใบรับรองการประกันภัย
9. Certificate of Origin : ใบรับรองต้นกำเนิดสินค้า
10. Certificate of Inspection : ใบสำคัญแสดงการตรวจสินค้า
ตั๋วฉบับหนึ่งๆ นั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องประกอบด้วยเอกสารทุกชนิด ซึ่งแล้วแต่การเรียกร้องต้องการของผู้สั่งซื้อสินค้า (Importer) ตามความตกลงกันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
Draft or Bill of Exchange : ดร๊าฟหรือตั๋วแลกเงิน ที่ใช้กันอยู่แพร่หลายมี 3 อย่าง คือ
1. ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) ? เป็นตราสารที่ผู้ออกตราสาร (ผู้ออกตั๋ว) สั่งให้บุคคลหนึ่ง
(ผู้จ่ายเงินตามตั๋ว) จ่ายเงินให้แก่บุคคลอีกบุคคลหนึ่ง (ผู้รับเงินตามตั๋ว)
2. ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note) ? เป็นตราสารที่ผู้ออกตั๋วให้สัญญาว่า จะใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง (ผู้รับเงิน) ตามคำสั่งเมื่อถึงกำหนดเวลา
3. เช็ค (Check) ? เป็นตราสารที่บุคคลผู้ออก (ผู้สั่งจ่าย) สั่งธนาคาร (ที่ตนมีบัญชีอยู่) ให้จ่ายเงินจำนวนตามที่ระบุแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง (ผู้รับเงิน)
ชนิดของตั๋วแลกเงิน : แบ่งตามลักษณะของตั๋ว คือ
1. Bank Bills (Banker’s Draft) ? เป็นดร๊าฟที่ธนาคารออกสั่งให้ธนาคารอีกแห่งหนึ่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ถูกระบุชื่อในดร๊าฟ ซึ่งเป็นลักษณะที่ Drawer (ผู้สั่งจ่าย) และ Drawee (ผู้จ่าย) เป็นธนาคาร
2. Trade Bills (Time Bills or House Bills) ? เป็นตั๋วที่ใช้ในระหว่างพ่อค้าเพื่อเรียกเก็บเงินจากพ่อค้าด้วยกัน โดยมากใช้ในระหว่างบริษัทที่มีสาขาอยู่ในต่างประเทศ เป็นผู้ออกใช้กันเองระหว่างสาขา และสำนักงานใหญ่ของตน
3. Commercial Bill ? เป็นตั๋วที่พ่อค้าเป็นผู้สั่งจ่าย (Drawer) และธนาคารเป็นผู้จ่ายเงิน (Drawee)ตั๋วชนิดนี้ใช้เกี่ยวกับการเปิด L/C ซึ่ง Commercial Bill สามารถแบ่งแยกออกเป็น 2 ชนิดย่อย คือ
3.1 Clean Bills ? คือ ตั๋วที่ไม่มีเอกสารประกอบ มักใช้กับการชำระเงินค่าสินค้าในระยะยาว อาจเป็น 3, 5 ปี โดยชำระเป็นงวดๆ
3.2 Documentary Bills ? เป็นตั๋วที่มีเอกสารประกอบ ส่วนมากมักเป็นเอกสารในการส่งสินค้าที่เรียกว่า Shipping Documents Documentary Bills มีอยู่ 2 แบบ คือ
3.2.1 Documents Against Payment Bill : (ตั๋ว D/P) ? เป็นตั๋วที่ผู้ส่งสินค้า (Exporter) จะต้องจ่ายเงินให้ธนาคารก่อน แล้วจึงจะรับเอกสารไปออกของได้
3.2.2 Documents Against Acceptance Bill : (ตั๋ว D/A) ? เป็นตั๋วที่ผู้สั่งสินค้า (Importer) จะต้องรับรองตั๋ว (Bill of Exchange หรือ Draft) ก่อน แล้วจึงรับเอกสารไปแล้ว และจะชำระเงินภายหลังเมื่อถึงระยะเวลาที่ระบุไว้ใน Draft
ชนิดของตั๋วแลกเงิน : แบ่งตามระยะเวลาในการชำระเงิน คือ
1. Sight Draft (Demand Draft) ? เป็นตั๋วเงินที่จ่ายเมื่อทวงถาม (On Demand) คือ ระบุให้จ่ายเงินเมื่อเห็น (At Sight) โดยเมื่อธนาคารผู้เปิดเครดิต (Issuing Bank) ได้รับ Draft จะเรียกให้ผู้ซื้อ (Importer) จ่ายเงิน และส่งเงินนั้นไปให้แก่ Negotiating Bank ทันที
2. Time Draft (Usance Draft) ? เป็นตั๋วที่จ่ายเงินตามระยะเวลาในวันข้างหน้าตามที่กำหนดไว้ (Deferred Payment) เช่น 15, 30 หรือ 60 วัน โดย Time Draft นี้ จะเป็นการกำหนดระยะเวลาต่างๆ กัน คือ
2.1 Fixed Date ? ให้จ่ายในวันใดวันหนึ่งที่กำหนด ซึ่งจะระบุวันที่ถึงกำหนดได้เลย
2.2 Days After Date ? ให้จ่ายเมื่อสิ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ นับแต่วันที่ออก Draft เช่น 30 Days after Date of Draft
2.3 Day after Sight ? ให้จ่ายเงิน เมื่อสิ้นเวลาที่กำหนดไว้นับตั้งแต่ได้เห็น (หมายถึง ตั้งแต่วันที่รับรองตั๋ว)
Invoice : บัญชีราคาสินค้าหรือใบกำกับราคาสินค้า ? เป็นเอกสารที่ผู้ส่งสินค้า (Exporter) จัดขึ้น เพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า เช่น รายการจำนวนสินค้า, น้ำหนัก ราคาต่อหน่วย ราคารวม ประเภทของราคา ที่จะทำการซื้อขายกัน เครื่องหมายหีบห่อ ชื่อเรือที่ทำการขนส่ง ชื่อผู้ซื้อ เป็นต้น แต่ละบริษัทผู้ขายสินค้า (Exporter) จะมี Form ในการออก Invoice ของตนเอง และส่งไปพร้อมกับสินค้า พร้อมทั้งส่งมอบให้ผู้ซื้อ (Importer) เป็นหลักฐานในการตรวจสอบสินค้า
ชนิดของ Invoice มี 2 ชนิด คือ
1. Official Invoice ? เป็น Invoice ที่ใช้ในทางรัฐบาลซึ่งทางการประเทศปลายทางต้องการ โดยแบ่งออกเป็น
1.1 Customs Invoice ? เป็น Invoice ที่ทำขึ้นเพื่อมอบให้ด่านศุลกากรปลายทางใช้ตรวจสินค้า การที่ด่านศุลกากรเรียก Invoice ชนิดนี้ก็เพื่อหาทางป้องกันการตัดราคาตลาด (Dumping) ในบางประเทศ
1.2 Consular Invoice ? เป็น Invoice ที่ต้องนำไปให้กงสุลของประเทศที่จะส่งสินค้าไป ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศผู้ขาย (Export Country) ตรวจตราเสียก่อนที่จะส่งไปตามระเบียบศุลกากรของประเทศผู้ซื้อ (Import Country) ดังนั้น Invoice ที่ออกโดยสถานกงสุลจะต้องได้รับการประทับตราทางราชการ และลงนามโดยถูกต้อง ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้สถานกงสุลตามระเบียบของสถานกงสุลนั้นๆ
2. Commercial Invoice ? เป็นเอกสารที่ผู้ส่งสินค้า (Exporter) จัดทำขึ้นเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า เช่น รายการจำนวนสินค้า น้ำหนัก ราคาต่อหน่วย ราคารวม ประเภทของราคาที่จะทำการซื้อขายกัน เป็นต้น
Commercial Invoice สามารถจำแนกออกเป็น 5 ชนิด คือ
1. Local Invoice =>ใช้ในกิจการค้าภายในประเทศ
2. Shipping Invoice =>ใช้ในกิจการค้าระหว่างประเทศ
3. Consignment Invoice =>ใช้ในการสั่งสินค้าไปเพื่อฝากขายราคาที่แจ้งจะเป็นราคา C.I.F.
4. Sample Invoice =>ใช้สำหรับส่งสินค้าตัวอย่างไปต่างประเทศ
5. Pro-forma Invoice ? ใช้ในการเสนอราคา และเงื่อนไขในการจ่ายเงิน
Bill of Lading : ใบตราสารส่งสินค้า ? เป็นเอกสารที่บริษัทผู้ทำการขนส่งสินค้า (Shipping Company) ออกให้แก่ผู้จัดส่ง (Shipper) ไว้ เพื่อเป็นหลักฐานว่าตนได้รับมอบสินค้าไว้เพื่อทำการขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งตามที่กำหนด
ลักษณะที่สำคัญของ Bill of Lading มี 3 ประการคือ
1. เป็น Receipt ? คือ เป็นใบรับสินค้าที่จะทำการขนส่ง แสดงรายการสินค้าตามสภาพภายนอกของหีบห่อ และจดแจ้งประเภทของสินค้า
2. เป็น Contract ? คือ เป็นสัญญาระหว่างผู้ส่งกับผู้ขนส่งว่าจะดำเนินการขนส่งสินค้าไปยังเมืองปลายทางที่กำหนด และจะส่งมอบสินค้าให้กับผู้รับตามคำสั่งของผู้ส่ง (to the order of shipper)
3. เป็นตราสารที่แสดงสิทธิของผู้ทรง (Document of Title) ? แสดงว่าผู้ทรง L/C เป็นเจ้าของสินค้าตามรายการที่ทำการขนส่งนั้นๆ และโอนสิทธิต่อๆ กันได้ ดังนั้น B/L จึงเป็นเอกสารที่เปลี่ยนมือได้ (Negotiable)
Air Waybill : ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ ? เป็นใบรับและเป็นสัญญารับขนสินค้าของบริษัทการบิน ออกให้แก่ผู้ส่งออก (Exporter) ซึ่งต่างไปจาก B/L โดย Air Way Bill ไม่ใช่ตราสารแสดงสิทธิของผู้ทรงเอกสาร
Parcel Post Receipt : ใบพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ ? เป็นใบออกโดยสำนักงานไปรษณีย์ (Post Office) ของประเทศต้นทางส่งสินค้าให้ไว้เป็นหลักฐานว่า จะจัดส่งหีบห่อสินค้าตามที่ระบุไว้ไปให้แก่ผู้รับปลายทางสำนักงานไปรษณีย์ในประเทศผู้รับสินค้า ซึ่ง Parcel Post Receipt มีลักษณะเป็นเพียงใบรับเท่านั้น
Rail Waybill : ใบตราส่งทางรถไฟ ? เป็นใบรับออกโดยการรถไฟหรือตัวแทน (Agent) และมีลายเซ็นของผู้ทำการขนส่ง และตัวแทนลงนามประทับตราและวันที่ออก
Insurance Policy : ใบกรมธรรม์ประกันภัย ? เป็นสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งคือ ผู้รับประกันภัยตกลงจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลหนึ่ง คือ ผู้เอาประกันซึ่งได้เสียเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัย ในกรณีที่มีภัยตามที่ได้ตกลงกันไว้ เกิดขึ้นแก่สินค้าที่เอาประกันภัย
Insurance Certificate : ใบรับรองการประกันภัย ? คือ หลักฐานที่ผู้รับประกันภัยออกให้แก่ผู้ประกันภัยในแต่ละครั้งที่มีการขนส่งสินค้า
Certificate of Origin : ใบรับรองต้นกำเนิดสินค้า ? เป็นใบรับรองต้นกำเนิดสินค้า ว่าสินค้านั้นๆ มีกำเนิดในประเทศใด ตามปกติแล้วจะนิยมให้สภาการค้า (Chamber of Commerce) ของประเทศผู้ส่งสินค้าเป็นผู้ออกให้ วัตถุประสงค์ในการใช้เอกสารนี้ ก็โดยเหตุที่บางประเทศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าที่ผลิตในประเทศที่มีสนธิสัญญาในเรื่องภาษีต่อกันต่ำกว่าสินค้าจากประเทศอื่น หรือห้ามสินค้าจากประเทศใดประเทศหนึ่งเข้าประเทศของตน
Certificate of Inspection : ใบสำคัญแสดงการตรวจสินค้า ? เป็นเอกสารรับรองคุณภาพของสินค้าที่ออกโดยองค์การตรวจของรัฐบาลหรือเอกชนที่เชื่อถือได้ เนื่องจากสินค้าบางชนิดผู้ซื้อ (Importer) ต้องการให้มีการตรวจคุณภาพสินค้าด้วย
Certificate of Analysis : ใบสำคัญแสดงการวิเคราะห์ ? เป็นเอกสารแสดงการวิเคราะห์ว่าสินค้านั้นๆ มีส่วนผสมอะไรบ้าง และมีสัดส่วนอย่าไร ซึ่งผู้ซื้อ (Importer) จะได้ทราบว่า สินค้ามีส่วนผสมตามความตกลง
Health Certificate : ใบสำคัญแสดงความสมบูรณ์ของสินค้า ? เป็นเอกสารที่แสดงถึงความสมบูรณ์ของสินค้า สินค้าบางชนิดจำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ซึ่งต้องการคำรับรองว่า มีความสมบูรณ์ปราศจากโรครบกวน
Beneficiary’s Certificate : ใบรับรองผู้ขาย ? มักจะออกโดยผู้ขาย (ผู้รับประโยชน์) เพื่อรองรับว่าได้ส่งสำเนาเอกสาร (Shipping Documents) 1 ชุด หรือ เอกสารฉบับหนึ่งฉบับใดตามที่ได้ระบุไว้ในเครดิตให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง หลังจากสินค้าลงเรือแล้ว
Packing & Weight List : ใบแสดงการบรรจุหีบห่อและใบแสดงรายการน้ำหนักสินค้า ? เป็นรายการในการบรรจุหีบห่อ แสดงถึงการบรรจุของในแต่ละหีบห่อว่าได้บรรจุสินค้าแบบใด จำนวนเท่าใด ในบางครั้งจะแสดงถึงน้ำหนักและขนาดด้วย ถ้าหากไม่แจ้งขนาดและน้ำหนักจะมีเอกสารที่แยกออกไป
Weight Certificate : ใบรับรองแสดงน้ำหนักสินค้า ? เป็นใบรับรองแสดงน้ำหนักสินค้า ซึ่งผู้ซื้อจะทราบว่าสินค้ามีน้ำหนักตามมาตรฐานที่ได้ตกลงซื้อขายกันหรือไม่

บริการด้านการออมและการลงทุน ตั๋วแลกเงิน
ตั๋วแลกเงิน

ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) คือ ตราสารทางการเงินที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนซึ่งเป็นลักษณะกู้ยืมเงินจากประชาชน ผู้ลงทุนในตั๋วแลกเงินของธนาคารจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของธนาคาร โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากไม่ได้ให้การค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยของตั๋วแลกเงิน   
  • ลักษณะบริการ

ลักษณะบริการ

  • ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) คือ ตราสารทางการเงินที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนซึ่งเป็นลักษณะกู้ยืมเงินจากประชาชน
  • ผู้ลงทุนในตั๋วแลกเงินของธนาคารจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของธนาคาร โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากไม่ได้ให้การค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยของตั๋วแลกเงิ


อัตราดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม

  • อัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงินตามประกาศธนาคาร
  • ตั๋วแลกเงินทุกประเภท ธนาคารชำระดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด ตามที่ระบุไว้ในตั๋วแลกเงิน  ยกเว้นตั๋วแลกเงินประเภท 36 เดือน ชำระดอกเบี้ยแบบรายเดือน และธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามเงื่อนไขของกรมสรรพกร
  • กรณีไถ่ถอนก่อนครบกำหนดได้รับดอกเบี้ยตามประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป ณ วันที่ธนาคาร
    • เงื่อนไขการใช้บริการ

    • การซื้อตั๋วแลกเงินแต่ละฉบับต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท และส่วนที่เกินกว่า 500,000 บาทต้องเป็นจำนวนทวีคูณของ 10,000 บาท
    • ลูกค้าต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคาร เพื่อการโอนเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยของตั๋วแลกเงินเมื่อถึงวันครบกำหนด ตามที่ระบุไว้ในใบคำขอซื้อตั๋วแลกเงิน





ตั๋วแลกเงิน

ตั๋วเงินธนาคารกรุงเทพของตลาดหลักทรัพย์ 

หากคุณมีความสนใจในการลงทุนซื้อตั๋วเงินของเราในการแลกเปลี่ยนและได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำปกติมีกำหนดที่คล้ายกัน

อะไรตั๋วแลกเงินคืออะไร?

ตั๋วแลกเงินเป็นเงินลงทุนสำหรับระยะเวลาที่กำหนดเวลาที่ส่งกลับเป็นจำนวนเงินที่เป็นที่รู้จักของดอกเบี้ย คำว่า"บิล"หมายถึงการรับรองหรือใบเสร็จรับเงินซึ่งออกโดยทั่วไป แต่รายการของธนาคารในสมุดบัญชีเงินฝากยังให้ข้อมูลเช่นเดียวกับ"บิล"ด้วยความสะดวกสบายของการไม่ต้องจัดการกับเอกสารหลาย ๆ นอกจากนี้ตั๋วเงินที่สามารถนำมาแลกกับธนาคาร

ตั๋วแลกเงินจะมีอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำทำไม?

ตั๋วแลกเงินไม่ถือว่าเป็นเงินฝาก

ผู้ที่สามารถลงทุน?

ที่อาศัยอยู่ในไทยหรือชาวต่างชาติที่ได้รับสถานะถิ่นที่อยู่

เงื่อนไขอะไรที่พร้อมใช้งาน

ความหลากหลายของการมีอยู่ -- คล้ายกับเงินฝากประจำ ตรวจสอบนี้ การเชื่อมโยง สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขและอัตราที่ (ที่มีอยู่ในไทยเท่านั้น)

เงื่อนไขเกี่ยวกับตั๋วแลกเงิน
  • ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพและจดทะเบียนภายใต้ชื่อของผู้ถือ พวกเขาจะไม่สามารถโอนเปลี่ยนมือได้
  • ธนาคารจะกำหนดและประกาศ tenures ของตั๋วเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน คลิก ที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ที่มีอยู่ในไทยเท่านั้น)
  • ผู้ถือตั๋วแลกเงินจะได้รับบิลจากสมุดบัญชีเงินฝากแลกเปลี่ยนเพื่อบัน​​ทึกการลงทุนของพวกเขา
  • เมื่อตั๋วแลกเงินถึงครบกําหนดธนาคารจะต่ออายุโดยอัตโนมัติและใช้เงินต้นและดอกเบี้ยที่จะซื้อใหม่สำหรับงวดการชำระเงินเดียวกัน
  • เมื่อครบและการสอนโดย Bill ของผู้ถือ Exchange, บิลแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้ถูกโอนไปยังได้รับการแต่งตั้งธนาคารกรุงเทพบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสหรือฝากเข้าบัญชีคงที่โดยใช้หมายเลขบัญชีเช่นเดียวกับที่ของบิลก่อนหน้าของการแลกเปลี่ยน .
  • บิลของผู้ถือตลาดหลักทรัพย์ยังสามารถเลือกที่จะถ่ายโอนเฉพาะบิลที่น่าสนใจแลกเปลี่ยนหลังจากที่มันถึงกำหนด, เป็นได้รับการแต่งตั้งธนาคารกรุงเทพบัญชีออมทรัพย์หรือกระแส 
ให้มากที่สุดของผลประโยชน์เหล่านี้ -- ตั๋วแลกเงิน
  • การลงทุนมีความเสี่ยงต่ำที่มีผลตอบแทนคงที่ช่วงเวลาที่เลือก
  • ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาครบกำหนดที่คล้ายกัน
  • บันทึกการลงทุนในตั๋วเงินงบการเงินรวมของสมุดบัญชีเงินฝากแลกเปลี่ยน
  • หรือการชำระเงินไถ่ถอน (ดอกเบี้ยและเงินต้น) จะถูกโอนโดยอัตโนมัติไปยังธนาคารกรุงเทพบัญชีออมทรัพย์ของคุณ
  • ตั๋วแลกเงินสามารถใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน
วิธีการซื้อตั๋วแลกเงิน
  • ตั๋วแลกเงินมีอยู่ที่ใด ๆ ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ
  • ตั๋วแลกเงินที่มีอยู่ไปยังบุคคล, นิติบุคคลและสถาบันการเงิน ผู้ซื้อทั้งหมดจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
* ผู้ถือตั๋วแลกเงินจะถือว่าเป็นเจ้าหนี้ของธนาคาร ตั๋วเงินของ Exchange ไม่อยู่ภายใต้การป้องกัน (ดอกเบี้ยและเงินต้น) ของสถ​​าบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551

เอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อตั๋วแลกเงิน

บุคคลที่
  • สำเนาของทั้งบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาหนังสือเดินทางหรือเอกสารการลงทะเบียนคนต่างด้าวสำหรับชาติที่ไม่ใช่คนไทยที่มีถิ่นที่อยู่สถานะ
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของกรุงเทพมหานครเพื่ออนุญาตให้ธนาคารกรุงเทพเพื่อเงินต้นและดอกเบี้ยบัตรเครดิตไปยังบัญชีของคุณ
นิติบุคคลและสถาบันการเงิน
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน บริษัท
  • สำเนาหน้าแรกของ บริษัท ฯ ในสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพสำหรับการอนุมัติสินเชื่อของเงินต้นและดอกเบี้ยในบัญชีของคุณ
  • นาทีของการประชุมของคณะกรรมการ บริษัท ฯ กรรมการของ บริษัท อนุมัติการลงทุนในตั๋วเงินของธนาคารกรุงเทพของตลาดหลักทรัพย์
  • บัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการในนามของ บริษัท ฯ
  • หนังสือมอบอำนาจให้อำนาจกรรมการที่จะกระทำในนามของ บริษัท
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสาขาธนาคารกรุงเทพหรือโทรบัวหลวงโฟนได้ที่โทร 1333

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น